!!!ดาวใต้นิวส์ออนไลน์!!! โครงการพัฒนาดอยตุง (คพต.) ออกสำรวจรังวัดแปลงที่ดินตกค้าง จำนวน 668 แปลง แจ้งสิทธิข้อระเบียบข้อกฎหมายที่ทำกินพื้นที่ป่าอนุรักษ์
โครงการพัฒนาดอยตุง (คพต.) ออกสำรวจรังวัดแปลงที่ดินตกค้าง จำนวน 668 แปลง แจ้งสิทธิข้อระเบียบข้อกฎหมายที่ทำกินพื้นที่ป่าอนุรักษ์
เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาดอยตุง (คพต.) ( พื้นที่ทรงงาน ) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกสำรวจรังวัดแนวเขตแปลงที่ดินป่าอนุรักษ์-ที่อยู่อาศัย-ที่ทำดิน-ที่ใช้ประโยชน์ พื้นที่ อ.แม่สาย-อ.แม่จัน จำนวน 668 แปลง ที่ยังตกค้างสำรวจในการชี้ชัดแนวเขต ประจำปี 2568
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาดอยตุง (คพต.) ได้เน้นย้ำชี้แจงในข้อระเบียบ-ข้อกฎหมาย ให้พีน้องประชาชน - และกลุ่มชาติพันธุ์ทราบในข้อปฏิบัติในการครอบครองสิทธิในพื้นที่ดินป่าอนุรักษ์-ที่อยู่อาศัย-ที่ทำดิน – และที่ใช้ประโยชน์ ซึ่งการทำกินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์มีข้อห้ามและข้อจำกัดทางกฎหมายอย่างเข้มงวด แต่กฎหมายใหม่ เช่น พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ได้กำหนดมาตรา 64 เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่นั้นอยู่แล้ว โดยให้สิทธิทำกินเฉพาะ "สิทธิ์ในที่ทำกิน" ไม่ใช่ "เอกสารสิทธิ์" และต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งจะมีการออกกฎหมายลำดับรองเพื่อกำหนดรายละเอียดต่อไป
กฎหมายและข้อบังคับ
ข้อห้ามโดยทั่วไป: ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดินป่าอนุรักษ์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต
การอนุญาต ( เฉพาะกรณี )
สทก. (สิทธิทำกิน): เป็นสิทธิทำกินในป่าสงวนที่ประกาศแล้ว ไม่สามารถซื้อขายได้ แต่ตกทอดทางมรดกได้
มาตรา 64 (พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562): กำหนดให้มีการพิจารณาให้สิทธิ์ทำกินแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่อุทยานฯ มาก่อนการประกาศเขตป่าอนุรักษ์ โดยมีเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎหมายลำดับรอง
ข้อจำกัด
สิทธิ์ทำกินไม่ใช่เอกสารสิทธิ์: ผู้ที่ได้รับอนุญาตจะได้รับเพียง "สิทธิ์ทำกิน" เท่านั้น ไม่ใช่ "เอกสารสิทธิ์" ที่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้
เงื่อนไขการทำกิน: การทำกินจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ
ขอบเขตที่ทำกิน: มีการกำหนดพื้นที่ทำกินและอยู่อาศัยที่ชัดเจน และต้องไม่ขยายพื้นที่ออกไปอีก
การตรวจสอบ: กรมอุทยานฯ จะมีการสำรวจและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่
บทลงโทษ: ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น บุกรุก ทำลายป่า หรือล่าสัตว์ในเขตป่าอนุรักษ์ มีโทษทั้งจำและปรับ
สรุป
แม้ว่าการทำกินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์จะมีข้อจำกัดและมีความเสี่ยง แต่กฎหมายใหม่ได้เปิดช่องให้ประชาชนที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ดังกล่าวมานาน สามารถขออนุญาตทำกินได้ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม
โดยที่ผ่านมา
ในพื้นที่ อ.แม่สายเมืองชายแดน ได้เกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง พื้นที่ดินป่าอนุรักษ์ –และในพื้นที่ธนารักษ์ 1.มีกลุ่มนายทุนสีเทาของประเทศเพื่อนบ้าน (โดยใช้กลุ่มนอมินี หรือกลุ่มนายทุนใน อ.แม่สาย ) เข้าไปบุกรุกทำผิดกฎหมาย-ผิดข้อระเบียบบังคับ ในพื้นที่ดินป่าอนุรักษ์ –และในพื้นที่ธนารักษ์ ( ราชพัสดุ อันเป็นอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินของแผ่น ) โดยการแบ่งล็อคจัดสรรขายกันใหญ่โตมโหฬาร ในพื้นที่ ต.โป่งงาม ต.โป่งผา และ ต.เวียงพางคำ 2.ปัญหากรณีมีผู้ครอบครองสทธิ์อ้างสิทธิซ้ำซ้อนนำมาขายต่อเป็นทอดๆ 3.ผู้อยู่อาศัยทำกินไม่มีบัตรประจำตัว ที่ไม่สามารถอยู่อาศัยในประเทศไทยได้ โดยถูกต้องตามกฎหมาย 4.การทำสัญญาชื้อขายพื้นที่ดินป่าอนุรักษ์ –และในพื้นที่ธนารักษ์ มิชอบด้วยกฎหมาย
///////////////////////////////////////
บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์ /// รายงาน ///




ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น