!!!ดาวใต้นิวส์ออนไลน์!!! นนทบุรี - สุดทน! ชาวบ้านร้องสื่อป้าป่วยจิต ด่ากราดทั้งซอย ทนมานานกว่า 10 ปี ประสานทุกหน่วยงานไร้ทางออก
นนทบุรี สุดทน! ชาวบ้านร้องสื่อป้าป่วยจิต ด่ากราดทั้งซอย ทนมานานกว่า 10 ปี ประสานทุกหน่วยงานไร้ทางออก
วันที่ 19 พ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านซอยวัดไผ่เหลือง ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์คลิปหญิงเพื่อนบ้าน โดยมีชื่อว่า “ป้ามุก” ซึ่งคาดว่ามีอาการป่วยทางจิต อาศัยอยู่กับแม่วัยกว่า 75 ปี และมีพฤติกรรมตะโกนด่าทอชาวบ้านด้วยคำหยาบคายเป็นประจำ สร้างความเดือดร้อนให้ชุมชนต่อเนื่องมากว่า 10 ปี แม้ชาวบ้านร้องเรียนหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงแจ้งตำรวจหลายครั้ง แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น โดยเจ้าหน้าที่สามารถระงับเหตุได้เพียงชั่วคราว ก่อนเจ้าตัวกลับมาก่อความวุ่นวายซ้ำ
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นปลูกติดกันหลายหลัง นายศิริเดช อายุ 33 ปี ผู้พักอาศัยติดบ้านต้นเรื่อง เปิดเผยว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นมานานตั้งแต่เพื่อนบ้านรายดังกล่าวย้ายเข้ามาอยู่ ตลอดระยะเวลาหลายปีมีพฤติกรรมตะโกนด่ากราดทุกวัน ใช้คำหยาบคายไม่เลือกหน้า ทั้งด่าคนในซอย ด่าผู้ใหญ่บ้าน ด่าผู้ที่เดินผ่าน รวมถึงมีการทุบกำแพงเสียงดังเป็นประจำ เคยขู่ตนด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า อย่าเข้ามา เดี๋ยวกูฟันมึงเลย พร้อมทำเสียงรูดคัตเตอร์ให้ได้ยินจนรู้สึกไม่ปลอดภัย
นายศิริเดช กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ยังไม่มีลูกตนก็พอทนได้ แต่ปัจจุบันมีลูกวัย 2 เดือน เด็กมักสะดุ้งตื่นเพราะเสียงตะโกนของป้าอยู่บ่อยครั้ง ช่วงกลางวันบางครั้งทางผู้ก่อเหตุสวดมนต์พูดคำว่า “สาธุ สาธุ” ซ้ำ ๆ นานเป็นชั่วโมง เคยโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบประมาณ 3–4 ครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง คุณป้าก็หาว่าตำรวจเป็นพวกเดียวกับตน อีกทั้งยังกล่าวหาว่าตนทำของใส่แม่เขาจนป่วย รวมถึงใส่ร้ายว่าบ้านตน “สับแมวกิน” จนชาวบ้านรู้สึกหวาดผวา
ด้านนางชุรีย์ อายุ 63 ปี ประธานกรรมการชุมชนวัดไผ่เหลือง กล่าวว่า ตนถูกทางผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาชี้หน้าและพูดทำนองกล่าวหาว่าสบตาเหมือนมีเรื่องกัน พร้อมกล่าวเสียงดังหน้าบ้าน จนแม่ของผู้ก่อเหตุต้องออกมาขอโทษแทนลูก เนื่องจากเป็นผู้สูงอายุที่อาการป่วยและเดินลำบาก ไม่สามารถดูแลลูกได้เต็มที่ ผู้ก่อเหตุมีลักษณะคล้ายคนขาดยา บางวันเดินตะโกนด่าไม่หยุด บางครั้งไปขอข้าวพระตอนพระบิณฑบาต แต่เลือกกินเฉพาะข้าวหอมมะลิ หากหลวงพ่อให้ข้าวที่ไม่ใช่เป็นหอมมะลิตัวเขาจะปฏิเสธ ทั้งที่เคยเห็นว่าพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง ปัญหาน่าจะเกิดจาก ไม่ได้รับการรักษาและขาดยา จึงทำให้อาการหนักขึ้น เคยประสานไปยังเทศบาลแต่ถูกแจ้งว่าเป็นหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทำให้ชาวบ้านต้องรอความคืบหน้ามานานโดยไม่ทราบว่าทาง พม. จะลงพื้นที่เมื่อไร
นางปรุง อายุ 61 ปี เพื่อนบ้านติดกัน เปิดเผยว่า ตนเป็นหนึ่งในคนที่ถูกด่ามากที่สุด โดยปกติผู้ก่อเหตุมักออกมาตามหาสุนัข หากไม่เจอจะตะโกนโวยวายทั่วซอย เดินตามหาจนสุดซอยพร้อมด่าไม่เลือกหน้า ทั้งแม่ค้าขายของและคนเดินผ่านก็โดนเช่นกัน
ขณะที่นางจีรพรรณ อุปวงศ์ษา อายุ 68 ปี เพื่อนบ้านอีกราย เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเคยมาด่าตนต่อหน้าแม่ของเขาว่า “แม่ ๆ อีจอมันเอายาพิษให้ไอ้ขาวกิน” ซึ่งตัวเขา ใช้ชื่อย่อคำว่า จ. มาด่าตนแทนชื่อจริง ซึ่งด่าทอด้วยคำหยาบคาย และบางครั้งมีพฤติกรรมบังคับให้แม่ของเขา กราบเท้าตัวเขาเอง
แม้แม่ของผู้ก่อเหตุจะเดินแทบไม่ไหว ซึ่งตนและชาวบ้านต่างรู้สึกสงสารแม่ของผู้ก่อเหตุ และบ้านที่อยู่อาศัยก็เต็มไปด้วยขยะและสภาพสกปรกมาก เคยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาจะช่วยทำความสะอาด แต่ถูกไล่ออกจากบ้าน ทำให้ไม่มีใครสามารถเข้าไปจัดการได้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม “ป้ามุก” ผู้ก่อเหตุว่า ตนขอโทษทุกคนในซอย ตอนนี้แม่ไม่สบาย ฝากบอกว่าขอโทษด้วย จากนี้จะไม่เสียงดัง ไม่รบกวนใครอีก จะอยู่ของตัวเองปกติ ไม่ไปยุ่งกับใคร
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต
ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี







ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น